5 ซีรีส์เกาหลีย้อนยุคอิ่มเอมใจกับบรรยากาศเรื่องราวหนักอึ้ง
ต้องบอกเลยว่าซีรีส์เกาหลีย้อนยุคแบบนี้กระแสแรงดีไม่มีตกจริง ๆ เพราะไม่ว่าผ่านมากี่ปีกี่ปีก็มีการนำเสนอที่เต็มไปด้วยความสนุกอยู่เสมอ และแน่นอนว่าเรื่องราวของเรื่องที่อาจอิงประวัติศาสตร์ หรือไม่อิงประวัติศาสตร์ก็เป็นส่วนที่เสริมเติมแต่งให้เรื่องมีความสนุกมากยิ่งขึ้น ซึ่งในจุดนี้ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่ใครต่างก็พากันมาดูนอกจากเรื่องความรักใคร่ หรือบางทีก็ไม่มีเรื่องรักใคร่แต่เน้นเป็นเรื่องของการเมืองเลย ซึ่งแน่นอนว่าซีรีส์ย้อนยุคก็จะมีการพรีเซนต์แต่ละยุคของเกาหลีในสมัยก่อนที่แตกต่างกัน สามารถสังเกตได้ตั้งแต่เครื่องแต่งกาย อาหารการกิน รวมไปถึงคาแรกเตอร์ของผู้คนในสมัยก่อนที่นำมาจัดรวมได้อย่างประทับใจ โดย 5 ซีรีส์เกาหลีย้อนยุคมีดังนี้
รวมรายชื่อ 5 ซีรีส์เกาหลีย้อนยุค
- Queen for Seven Days 7 วันบัลลังก์ราชินีที่ศึกนี้ยาวยิ่งนักจนนำไปสู่จุดจบ... !?
สำหรับซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่อยากจะแนะนำเป็นเรื่องที่สุดแห่งความเข้มข้น ที่พรีเซนต์เกี่ยวกับการเมืองและการแย่งชิงบัลลังก์ได้เป็นอย่างดี โดยตัวเรื่องก็จะเป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ขึ้นเป็นพระราชินีเพียงเพราะพระราชาตกหลุ่มรัก ทั้งที่จริงเธอมีคนรักเป็นองค์ชายอยู่ก่อนแล้ว ด้วยความรักสามเศร้าจนทำให้เกิดเรื่องราวสั่นสะเทือนทั้งพระราชวัง โดยตัวเรื่องเน้นความดราม่า ความสะเทือนใจ และโศกนาฏกรรมได้เป็นอย่างดี โดยเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวที่อิงประวัติศาสตร์ที่นำมาพรีเซนต์ให้มีความน่าสนใจ น่าติดตาม และสะเทือนอารมณ์กับผู้ชมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
- The Crowned Clown นักแสดงตลกขึ้นแท่นเป็นกษัตริย์ปกครองบ้านเมือง
ซีรีส์ย้อนยุคที่สุดของความพีคเมื่อปีที่แล้ว ขอยกให้กับเรื่องThe Crowned Clown ซึ่งเป็นซีรี่ย์ที่พรีเซนต์เรื่องราวของกษัตริย์ชั่วที่มีนิสัยเข่นฆ่าผู้คน เนื่องจากมีปัญหาทางด้านจิตใจ รวมทั้งถูกกล่อมประสาทให้กลายเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม ในขณะเดียวกันก็ดันไปมีหน้าตาเหมือนนักตลกหนุ่มคนนึง ที่มีนิสัยขี้เล่น ร่าเริงและมีจิตใจอ่อนโยน เมื่อเสนาธิการได้บังเอิญมารู้จักกับตัวตลกคนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมาให้เป็นกษัตริย์ตัวปลอม เพื่อป้องกันการถูกลอบปลงพระชนม์หรือถูกทำร้าย แต่ทว่าด้วยความจิตใจดีมีคุณธรรม จึงทำให้ใครหลายคนก็คล้อยตามและเอนเอียงไปอยู่กับฝังทางนักตลกหนุ่มคนนั้น นอกจากนี้เรื่องราวThe Crowned Clownยังมีการพรีเซนต์การชิงบัลลังก์จากฝ่ายต่าง ๆ สามารถสร้างเสน่ห์ให้น่าสนใจได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณภาพจาก workpointtoday
3.Kingdom หนังซอมบี้ย้อนยุคกับการเผยโฉมของที่มาซอมบี้
คราวนี้มาดูซีรีส์เกาหลีย้อนยุคอย่างเรื่อง Kingdom กันบ้างดีกว่า ซึ่งเรื่องนี้ใครหลายคนต่างก็ชื่นชอบมาก เพราะเป็นการพรีเซนต์ที่ว่าด้วยเรื่องขององค์ชายรัชทายาทที่ต้องหนีออกจากวัง เพื่อไปตามสืบหาเรื่องราวบางอย่าง และได้ไปบังเอิญพบเหตุคนตายปริศนา แต่ทว่ากลับฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง และพร้อมที่จะกระชวกผู้คน หรือที่เรารู้จักก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับซอมบี้นั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นการเน้นโชว์ซอมบี้ที่แต่ละซีนต้องบอกเลยว่าถึงใจ เพราะแต่ละฉากดิบเถื่อน และน่าดู น่าลุ้น และน่าติดตามเป็นอย่างมาก และKingdomยังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการชิงบัลลังก์สอดแทรกไว้ได้ดีอีกด้วย
- Rookie Historian Goo Hae-ryung นักบันทึกประวัติศาสตร์สาวที่สร้างความเท่าเทียม
สำหรับเรื่องนี้เป็นการย้อนยุคโดยไปโฟกัสของตัวละครเองที่ชื่อว่าโกแฮยอง ที่เป็นหญิงสาวผู้รู้หนังสือและสนใจที่จะเป็นนักจดบันทึกเวลาที่เบื้องบนได้ว่าราชการหรือได้พูดคุยหารือเรื่องราวต่าง ๆ แต่แน่นอนว่าด้วยความเป็นหญิงและมีใจที่อยากรับราชการจึงถูกกดขี่จากบรรดาชายหนุ่มอยู่เสมอ แต่ด้วยความที่นางเอกมีความสามารถจึงเป็นที่ยอมรับในที่สุด แต่ตัวเนื้อเรื่องนี้จะเน้นความโรแมนติกเยอะพอสมควร เพราะพระเอกเองก็เป็นถึงเจ้าชายที่จะต้องอยู่เรือนหลังทายวัง เพราะถูกลดความสำคัญจากผู้เป็นพ่อ แต่ก็ได้บังเอิญมาสานสัมพันธ์กับโกแฮยองจพัฒนากลายเป็นความรักและพร้อมผ่านไปด้วยกัน
- Mr. Queen เชฟหนุ่มมือโปรย้อนอดีตมาเป็นราชินีฝึกหัด
จัดว่าเป็นซีรีส์ย้อนยุคสายฮา ที่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นที่ถูกอดถูกใจเป็นอย่างมากMr. Queenโดยเนื้อเรื่องก็ว่าด้วยเรื่องของเชฟหนุ่มคนหนึ่งที่ได้บังเอิญประสบอุบัติจนวิญญาณหลุดจากร่าง ก่อนย้อนอดีตไปยังสมัยก่อนและไปอยู่ในร่างของพระมเหสีที่ดันกำลังจะต้องแต่งงานกับพระราชาซะงั้น ด้วยพล็อตเรื่องแบบนี้คงเห็นความฮามาแต่ไกล แน่นอนว่าว่าตัวเอกที่เป็นเชฟหนุ่มเอง ก็พร้อมลีลาฝีมือทำอาหารที่ใครหลายคนเห็นแล้วต้องน้ำลายไหล นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ซีรีย์เกาหลีMr. Queenเรื่องนี้สามารถพรีเซนต์ออกมาได้เป็นอย่างดี
สรุปหลังดูทั้ง 5 เรื่อง
และนี่ก็คือ 5 ความสนุกของซีรีส์เกาหลีย้อนยุคที่ได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้อ่านกัน ต้องบอกเลยว่าแต่ละเรื่องนั้นเด็ด แต่ละเรื่องนั้นเลิศ และมีเนื้อหาหรือเรื่องราวที่แตกต่างกันแบบสุด ๆ ซึ่งสามารถเลือกซีรี่ย์ที่อยากจะดูได้ หรือถ้าอยากลองพลิกจากแนวเดิม ๆ ที่เคยดูก็สามารถเลือกจากซีรี่ย์ที่ได้แนะนำไปเช่นกัน แต่ต้องหาเวลาว่างดูเท่านั้นนะ เพราะแต่ละเรื่องติดหนึบ อาจต้องดูแบบไม่ต้องพัก เพราะไม่งั้นอาจจะขาดตอนก็เป็นได้ หวังว่าซีรี่ย์ที่ได้แนะนำไปจะถูกใจกันไม่ใช่น้อยนะคะ
